รายงานการประชุมครั้งที่ 4

 

 

เริ่มประชุมเวลา 10.30 น.

 

ฝ่ายเลขานุการฯ ได้แจ้งที่ประชุมทราบว่า เนื่องจากประธาน (นายคณิสสร นาวานุเคราะห์) ป่วย กระทันหันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ ในเช้าวันนี้ และท่านประธานได้แจ้งให้ฝ่ายเลขานุการฯ เลือกประธานจากคณะกรรมการที่มาประชุม ซึ่งรองอธิบดีกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ (นางศรีรัตน์ รัฐษปานะ) ได้ให้ความกรุณาทำหน้าที่ประธานแทน

 

 

1. ประธาน ขอเปิดประชุม และแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มีคำสั่งที่ ก 367/2544 ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2544 เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (Chief Information Officer : CIO) ประจำกระทรวงพาณิชย์ ดังนี้

     1.1 นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ เป็นประธาน CIO แทน นายยรรยง พวงราช

 

     1.2 รองอธิบดีของทุกกรม/อคส. เป็นกรรมการ

 

     1.3 นายพิชัย ตรรกบุตร ผู้อำนวยการสำนักบริหารสนเทศการพาณิชย์ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นกรรมการ

 

     1.4 นางศิษฎี หรุ่นศิริ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ 8 วช. เป็นกรรมการและเลขานุการ

 

2. กรมต่างๆ ได้มีการเปลี่ยนแปลงรองอธิบดีที่ทำหน้าที่เป็น CIO กรม ดังนี้

 

     2.1 กรมการประกันภัย เปลี่ยนจาก นางปราณี ภาษีผล รองอธิบดีฯ เป็น นายมนตรี วิพันธ์วรพงษ์ รองอธิบดีฯ

 

     2.2 กรมส่งเสริมการส่งออก อยู่ระหว่างรอการแต่งตั้ง CIO เนื่องจากนายชรินทร์ หาญสืบสาย รองอธิบดีฯ ย้ายไปดำรงตำแหน่งรักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาการพาณิชย์ ประจำกระทรวงฯ

 

ทั้งนี้องค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ปรากฏอยู่ในเอกสารประกอบการประชุมที่จัดส่งกรรมการแล้ว

 

 

เลขานุการ แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ได้จัดส่งรายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารสารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง ประจำกระทรวงพาณิชย์ ครั้งที่ 3 /2544 เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2544 ทาง E-mailให้คณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนนำเข้าพิจารณารับรองในการประชุมครั้งนี้ ไม่มีผู้ใดขอ แก้ไข

 

 

รับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 3/2544

 

 

ประธาน แจ้งเรื่องการจัดทำคำของบประมาณปี 2546 ตามแนวทางปฏิบัติตามที่สำนักงบประมาณกำหนดไว้สำหรับโครงการที่มีมูลค่าเกิน 5 ล้านบาท ต้องให้สอดคล้องกับแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงพาณิชย์ ขณะนี้ กระทรวงฯ มีแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ ปี พ.ศ. 2545-2546 ซึ่งในภาคผนวกได้บรรจุแผนปฏิบัติการของแต่ละกรมไว้แล้ว ฝ่ายเลขานุการ ได้เสนอประเด็นการจัดทำคำของบประมาณปี 2546 หากกระทรวงจะจัดทำแผนแม่บทด้าน IT ขึ้นใหม่ จะไม่ทันตามกรอบเวลาที่กำหนด จึงขอให้ทุกกรมดำเนินการในส่วนของงบประมาณ IT ปี 2546 ดังนี้

 

ใช้แผนปฏิบัติการของแต่ละกรมตามภาคผนวกที่อยู่ในแผนแม่บทดังกล่าว เป็นกรอบแนวทาง โดยมีการทำแผนปฏิบัติการรายปี มีการวิเคราะห์และออกแบบงาน และแสดงค่าใช้จ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนด

 

ขอให้สรุปแผนปฏิบัติการ การปฏิบัติการพัฒนาด้านระบบคอมพิวเตอร์ในแต่ละกิจกรรมที่มีการใช้ Hardware และ Software พร้อมจำนวน ราคา เพื่อรวบรวมเป็นภาพรวมของกระทรวงฯ เพื่อเตรียมข้อมูลเสนอต่อการชี้แจงกรรมาธิการงบประมาณต่อไป

เลขานุการ กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในการจัดทำสรุปแผนปฏิบัติการการปฏิบัติการพัฒนาด้านระบบคอมพิวเตอร์นั้น ใคร่ขอมติจากที่ประชุมว่า แต่ละกรมพร้อมที่จะส่งรายละเอียดดังกล่าวให้แก่ฝ่าย เลขานุการเมื่อใด สำหรับการส่งคำของบประมาณด้านเทคโนโลยีสารสนเทศประจำปีของสำนักงบประมาณ โดยปกติโครงการที่มีมูลค่าเกิน 5 ล้านบาท จะต้องจัดทำคำขอตามแบบฟอร์มที่กำหนดไว้ แล้วจัดส่งให้สำนักงบประมาณภายในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เพื่อส่งต่อให้สำนักมาตรฐานคอมพิวเตอร์พิจารณาประกอบด้วย ในกรณีของกระทรวงพาณิชย์นั้น ขณะนี้ถือได้ว่าล่วงเลยระยะเวลาที่สำนักงบประมาณกำหนดไว้แล้ว จึงได้ ติดต่อประสานงานเรื่องนี้ เป็นการภายในกับสำนักงบประมาณขอขยายเวลาสำหรับคำของบประมาณด้านเทคโลยีสารสนเทศ ปี 2546 ของกระทรวงพาณิชย์ออกไปเป็นภายในเดือนธันวาคม ดังนั้น แต่ละกรมต้องเร่งจัดทำคำของบประมาณด้าน IT ปี 2546 มิฉะนั้น จะไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งประธานขอทราบความคืบหน้าการจัดทำงบประมาณ IT ของแต่ละกรม

ผู้แทนกรมส่งเสริมการส่งออก แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า เมื่อเร็วนี้ สอ. ได้จัดทำ Workshop เรื่อง การจัดทำคำของบประมาณเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ตามวิถีทางปกติกับสำนักงบประมาณ จึงไม่ต้องส่งคำขอเกี่ยวกับโครงการที่มีมูลค่าเกิน 5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หาก สอ. สรุปเรื่อง Workshop เรียบร้อยแล้ว จะจัดทำเป็นแผนแม่บทของกรมฯต่อไป

 

ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ ชี้แจงว่า คต.ก็ได้ดำเนินการเรื่อง Workshop เช่นเดียวกับ สอ.

 

นายพิชัย ตรรกบุตร ผอ. สำนักบริหารสารสนเทศการพาณิชย์ เสนอต่อที่ประชุมว่า ขอให้ฝ่ายเลขานุการประสานงานเป็นการภายในกับสำนักงบประมาณ เพื่อขอส่งคำของบประมาณ ปี 2546 ของกระทรวงพาณิชย์ ภายในเดือนธันวาคม ศกนี้ ซึ่งคาดว่ามีโอกาสส่งก่อนนำเข้าสู่คณะกรรมาธิการงบประมาณ อย่างน้อย 30 วัน

 

 

1. ให้ทุกกรม/อคส. จัดทำคำของบประมาณตามแผนการปฏิบัติการในภาคผนวกของแผน แม่บทกระทรวง ปี 2545-2546 หากมีการเปลี่ยนแปลงก็ขอให้อยู่ภายในกรอบของแผนงานโครงการดังกล่าว

 

2. ให้ฝ่ายเลขาฯประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อขอเลื่อนส่งคำขอดังกล่าวภายในสิ้นเดือน ธันวาคม 2544 และขอเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องด้านงบประมาณ IT มาประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ

 

 

เลขานุการ แจ้งว่าแผนแม่บท IT ที่ได้รวบรวม จากกรมต่างๆส่งให้สำนักงบประมาณเป็นแผนที่ปรับจากปี 43-46 มาเป็น ปี 45-46 เป็นการรวบรวมแผนแม่บทจากกรมต่างๆมาเป็นแผนแม่บทของกระทรวง ซึ่งประธาน CIO เห็นว่าการจัดทำแผนในลักษณะเช่นนี้ เป็นการจัดทำจากระดับล่างสู่ระดับบน และการทำลักษณะนี้จะมีปัญหาระยะเวลาของแผนไม่สอดคล้องกัน เช่น 3 ปี 4 ปี 5 ปี ดังนั้น เพื่อให้แผนของแต่ละกรมมีกรอบระยะเวลาเท่ากัน ควรที่จะมีการกำหนดนโยบายด้าน IT จากระดับบนสู่ระดับล่าง โดยให้มีการกำหนดวิสัยทัศน์ และกลยุทธ์ ที่สอดคล้องกับแผน IT ของรัฐ (IT – 2010 ) และแผนพัฒนาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฝ่ายเลขาฯ จึงได้สรุปประเด็นให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณา ดังนี้

 

1. ในอนาคต กระทรวงพาณิชย์จะใช้เครือข่ายติดต่อช่องเดียวกัน

 

2. ทุกกรมควรมี Intranet ใช้ในการบริหารภายใน

 

3. ข้อมูลทั่วไปของทุกกรมที่ใช้ควรอยู่ใน Intranet ส่วนข้อมูลเชิงลึกควรระบุเพียงตำแหน่งว่าอยู่ที่ไหน

 

4. เมื่อครบ 3 ปี แล้ว จะมีตัวชี้วัด ว่าเป็นไปตามแผนหรือไม่ อุปสรรคปัญหาคืออะไร จะแก้ไขอย่างไร

 

5. ทำอย่างไรให้กระทรวงพาณิชย์มีการใช้ Software ร่วมกัน

 

6. ทำอย่างไรจะเชื่อมโยงกับกระทรวงเศรษฐกิจ ด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยผ่าน Intranet ที่เชื่อมโยง ต่อกัน

 

ประธาน กล่าวว่า ประธาน CIO ได้ให้นโยบายในการจัดทำแผนแม่บท IT ของกระทรวงพาณิชย์ว่าควรเป็นแบบ Top Down เพราะจะทำให้เกิดการบูรณาการออกมาเป็นแผน และค่าใช้จ่ายที่สอดคล้องกันซึ่งด้วยวิธีการดังกล่าวนี้ คณะกรรมการ CIO จะต้องร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ขอให้ฝ่ายเลขาฯ พิจารณาหากลไกเพื่อบรรจุวิธีการที่ประธาน CIO กำหนดให้ข้างต้น โดยให้ครอบคลุมประเด็นดังต่อไปนี้

 

1. ให้มีการประชุมคณะกรรมการ CIO อย่างสม่ำเสมอ

 

2. คณะกรรมการ CIO ของทุกกรมจะต้องร่วมประชุมทุกครั้ง พร้อมทั้งให้ความคิดชี้นำได้

 

3. เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติทั้งของ สทพ. และหน่วยงาน IT ของทุกกรมจะต้องประสานงานกันอย่างใกล้ชิด

 

กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาตามแผน IT- 2010 ซึ่งขณะนี้ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ครม. ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์จะเน้นการสร้าง Knowledge Base Society แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ฝ่ายเลขาฯ ศึกษารายละเอียดในส่วนนี้อีกครั้ง และคัดเฉพาะส่วนที่เป็นประโยชน์มาใช้

 

นอกจากนี้ยังแจ้งว่าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ได้จัดสัมมนาโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์กลางกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (AIT) จึงเห็นควรที่จะนำเรื่องนี้เสนอในที่ประชุม เพื่อให้การจัดทำระบบฯ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ ดร. ปานใจ ธารทัศนวงศ์ ในฐานะที่ปรึกษาฯ และ ผอ. พิชัย ตรรกบุตร ให้ข้อเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเรื่องสัมนาดังกล่าวแจ้งต่อที่ประชุมด้วย

 

ดร. ปานใจ ธารทัศนวงศ์ แจ้งต่อที่ประชุมว่า จากผลการสัมมนาดังกล่าว AIT ได้ระบุชัดเจนเรื่อง Software และระบบงานสนับสนุน ( Back Office) ของงานทั่วไปในกระทรวงพาณิชย์ ควรที่จะใช้ร่วมกัน ซึ่งต้องมีการหารือในรายละเอียดร่วมกันต่อไป และต่อไปในอนาคต งานในเชิงลึกก็สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยการจัดตั้ง Data Center ตามแผนของกระทรวงที่ได้กำหนดไว้แล้ว

 

ผอ. พิชัย ตรรกบุตร ชี้แจงว่า เพื่อสนับสนุนแผนแม่บทฯ กระทรวงพาณิชย์ ปี 2545-2546 ที่ประธาน CIO ได้ลงนาม ดังนั้น ในปี 2546 ขอให้ทุกกรมยึดแผนแม่บทฉบับเดิมเป็นหลัก ส่วนวิธีการปฏิบัติในการเตรียมคำขอให้ใช้แนวทางที่ฝ่ายเลขานุการได้แจกไปให้ โดยแยกแผนด้านการพัฒนาออกไปเป็นโจทย์ ส่วนการปฏิบัติควรปรับให้สอดคล้องกับแผนเร่งด่วนของรัฐบาล

 

ผู้แทนกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวเสริมว่า การจัดทำแผนแม่บทของกรมประสบปัญหา คือสำนักงบประมาณ ให้ความเห็นว่าควรมีการปรับปรุง ทางกรมก็ปรับปรุงตามแนวทางที่สำนักงบประมาณแนะนำ ต่อมาก็ขอให้มีการศึกษาวิเคราะห์ด้วย ดังนั้น จึงมีปัญหาข้อสรุปในวิธีการเขียนแผนแม่บทของกรม

 

ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การจัดทำแผนแม่บทของ คต. ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับ สอ. ยังไม่เป็นที่ยอมรับของสำนักงบประมาณ แต่อย่างไรก็ตาม คต. จะใช้แผนแม่บทกระทรวงเป็นกรอบและแนวทางในการจัดทำแผนแม่บทของกรมต่อไป

 

ผู้แทนกรมการประกันภัย ชี้แจงว่ากรมการประกันภัยมีปัญหาเรื่อง Software และ Hardware ที่ไม่ได้รับงบประมาณปี 2545 แต่ขณะนี้ กรมฯ ได้ว่าจ้างสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ศึกษาและจัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ ปี 2546-2550

 

ผู้แทนกรมทรัพย์สินทางปัญญา ชี้แจงว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาไม่ได้รับงบประมาณ ปี 2545 เช่นกัน แต่ได้รับเงินกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดซื้อระบบคอมพิวเตอร์และพัฒนาระบบงานจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาด้านเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2545

 

 

1. ให้ฝ่ายเลขาฯ จัดทำหนังสือให้ CIO ถึงสำนักงบประมาณ ยืนยันว่า กระทรวงพาณิชย์ยังคงยึด แผนแม่บท IT ปี 2545-2546 ตามเดิม

 

2. ให้กรมต่างๆ หารือรายละเอียดเพิ่มเติมในการทำแผน ฯ ให้สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับแผนแม่บทกระทรวง

 

 

ประธาน กล่าวว่าการทำแผนที่ผ่านมาประสบปัญหาติดขัดมากมาย ประกอบกับภาวะเงินตึงภายในประเทศ ดังนั้น ควรที่จะมีการร่วมมือกันวางแผนให้มากขึ้น เพื่อมีการจัดการที่ดี ให้สำนักงบประมาณยอมรับ มอบหมายให้ ผอ. พิชัย ตรรกบุตร นำประเด็นนี้เรียนหารือประธาน CIO ด้วย

 

ผอ. พิชัย ตรรกบุตร กล่าวถึงการจัดทำแผน IT ปี 2547–2549 ดังนี้

 

1. ได้หารือกับประธาน CIO เป็นการเบื้องต้นว่า อาจจะมีการจ้างบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นกรรมการตรวจแผนแผนแม่บทมาทำแผนแม่บท IT ของกระทรวงพาณิชย์ เพราะจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาวิเคราะห์ลงไปในรายละเอียดมาก อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่จะต้องพิจารณาคือ จะรายงานปลัดกระทรวงพาณิชย์เพื่อขออนุมัติเงินงบประมาณว่าจ้างอย่างไร เพราะที่ผ่านมามีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาด้านคอมพิวเตอร์หลายชุด

 

2. กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำแผนแม่บท IT มาแล้ว 3 ฉบับ โดยเป็นการจัดทำจากเจ้าหน้าที่ระดับล่าง เป็นงานด้านการจัดทำและพัฒนาข้อมูล หากจะมีการจัดทำจากระดับบนลงมา (Top Down) จะใช้อะไรเป็นมาตรฐาน เพราะยังไม่มีนโยบายแผนแม่บท IT ระดับชาติ แม้แต่นโยบายของ NECTEC ก็ไม่ใช่นโยบายแห่งชาติ ดังนั้น หากจะทำให้งานด้านการจัดทำและพัฒนาข้อมูลเป็นแผนแม่บทกระทรวงฯ ใครจะเป็นผู้กำหนด รวมการศึกษาวิเคราะห์ในการจัดทำแผนแม่บท การจัดทำแผนแม่บทที่ดีต้องใช้เวลาและความละเอียดมาก

 

ดร. ปานใจ ธารทัศนวงศ์ กล่าวเสริมว่า ในการจัดทำแผนแม่บท IT ปี 2547-2549 จะต้องคำนึงถึงระบบงบประมาณแบบใหม่ ซี่งจะมี 2 ปัจจัย คือ การเขียนแผนและการทำบัญชีแสดงทรัพย์สินหน่วยงานราชการ จะมีผลกระทบ ต่อการจัดทำงบประมาณ ปี 2547-2549ในด้านการจัดซื้อและจัดจ้าง และมีความเห็นด้วยกับ ผอ. พิชัยฯ 2 ประเด็น คือ หากมีนโยบาย IT แห่งชาติแล้ว กระทรวงพาณิชย์จะให้ใครเป็นผู้ช่วยในการจัดทำแผนแม่บทกระทรวง และ กระทรวงพาณิชย์ ควรจัดทำแผน IT ให้สอดคล้องกับแผนงานของกระทรวงพาณิชย์เอง

 

นอกจากนี้ ประธาน ยังได้แจ้งให้ทราบว่ากรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ได้จ้างบริษัทจัดทำระบบ Paperless ใช้ภายในกรมฯ หากระบบนี้ประสบผลสำเร็จ ควรที่จะเป็นต้นแบบให้กรมอื่นๆได้ รวมทั้งการเชื่อมโยงระบบ Paperless ร่วมกัน ซึ่งปรากฏว่า กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการส่งออก ต่างก็มีแผนที่จะนำระบบ Paperless มาใช้ภายในเช่นกันส่วนการเชื่อมโยงระบบ Paperless ระหว่างกัน จะต้องมีการร่วมกันพิจารณากันต่อไป

 

มติที่ประชุม

 

มีมติมอบหมายให้ ผอ.พิชัย หารือรายละเอียดการจัดทำแผนแม่บท ปี 2547-2549 กับประธาน CIO

 

 

 

ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องเพื่อทราบ

 

 

4.1 แนวทางการจัดหาเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานภาครัฐประจำปีงบประมาณ 2545

 

เลขานุการ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ตามที่สำนักงบประมาณ ได้ส่งหนังสือเวียนให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ ชะลอการจัดหาเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ประมวลผลระดับทั่วไปและระดับสูง จนกว่าจะได้รับแจ้งแนวทางการจัดซื้อจากสำนักงบประมาณ ดังรายละเอียดข้อมูลอยู่ในเอกสารที่แจกในที่ประชุม ฝ่ายเลขานุการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ได้รวบรวมข้อมูลจำนวนครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ พร้อมคุณลักษณะ และราคาต่อหน่วยที่จัดซื้อโดยเงินงบประมาณ ปี 2545 นำส่งให้สำนักงบประมาณแล้ว

 

 

ประธาน ได้ตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายระดับชาติมองว่า การจัดซื้อคอมพิวเตอร์ในลักษณะรวมกัน จัดซื้อ (Pool) ได้จะมีความประหยัดและมีมาตรฐานกว่า ในกรณีของกระทรวงพาณิชย์จะ มีนโยบายในเรื่องนี้อย่างไร

 

ผอ. พิชัยฯ ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า นโยบายการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ในลักษณะรวมกันจัดซื้อ (Pool) ของกระทรวงพาณิชย์ยังไม่ชัดเจน แต่ตามทฤษฎีแล้วการจัดซื้อด้วยวิธีดังกล่าวจะมีผลตามที่ประธานกล่าวมาแล้ว แต่ในทางปฏิบัติแล้ว มีข้อเสียคือ ไม่มีความโปร่งใสและมีการเลือกปฏิบัติ จึงเสนอว่าควรที่จะมีการแยกซื้อในแต่ละหน่วยงาน โดยอิงแผนแม่บทกระทรวง

 

ดร. ปานใจฯ ชี้แจงเสริมว่า ขณะนี้ สำนักงบประมาณมีแนวทางให้เช่าเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในสำนักงานได้ ซึ่งน่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่าเพราะนอกจากจะ ประหยัดงบประมาณแล้ว เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

 

มติที่ประชุม

 

ที่ประชุมรับทราบ

 

4.2 ความคืบหน้าการดำเนินการวางระบบโครงข่ายเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์อาคารกระทรวงพาณิชย์ส่วนที่ 2 อาคารกระทรวงพาณิชย์ส่วนที่ 2 นนทบุรี

 

เลขานุการ ได้มอบหมายให้ คุณ อำนาจ ศรีสุวรรณ ผู้แทนบริษัท รวมนคร ก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับงานจ้างเดินสายสัญญาณหลักของอาคารส่วนที่ 2 ชี้แจงสรุปความคืบหน้าการติดตั้งสายสัญญาณเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่อาคารกระทรวงพาณิชย์ส่วนที่ 2 นนทบุรี ตามที่ได้จัดสรรให้แต่ละกรม/อคส. รวมทั้งสิ้น 1,519 จุด ดังนี้

 

พร้อมนี้ได้นำเสนอความคืบหน้าประกอบภาพถ่ายเรื่องดังกล่าวนี้ให้ที่ประชุมทราบด้วย

ผอ. พิชัยฯ ชี้แจงความคืบหน้าเรื่องระบบเครือข่ายว่า ขณะนี้ในส่วนภูมิภาคได้จัดทำแบบสอบถามไปยังสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 76 จังหวัดแล้ว โดยให้พาณิชย์จังหวัดเป็นหัวหน้าหน่วยงานต่างๆของกระทรวงในจังหวัดนั้น ร่างแผนระบบเครือข่ายของสำนักงานในอนาคต เพื่อสร้างเครือข่ายภายใน (LAN) เมื่อได้ข้อมูลครบแล้ว ก็จะทำการสรุปตามที่ต้องการจะใช้ระบบอะไร โดยจะยึดแผนแม่บทกระทรวง ปี 2547-2549 เป็นกรอบแนวทาง ต่อจากนั้น จากเชิญผอ. กองคลังของทุก กรม/อคส. และผอ. สำนักมาตรฐานงบประมาณ มาหารือรายละเอียดในเรื่องนี้ต่อไป โดยมอบหมายใหฝ่ายเลขาฯ ประสานกับสำนักงบประมาณในเรื่องการนัดหมายดังกล่าว

 

เลขานุการ จะประสานการนัดหมายกับผู้อำนวยการส่วนมาตรฐานงบประมาณ เมื่อทราบกำหนดวันเวลาที่แน่นอนแล้วจะแจ้งให้ทราบทาง E-mail ต่อไป

 

 

ที่ประชุมรับทราบ

 

เลิกประชุมเวลา 12.10 น.